ดร.มาก ไบโอเทค ชี้แจง การเกิด 2 ขีดจางในเอคราวเค

ดร.มาก ไบโอเทค ชี้แจง การเกิด 2 ขีดซีดๆในเอครั้งเค
วันที่ 5 เดือนธันวาคม ดร.มาก ต้องแก้ววัฒนา นักค้นคว้าด้านเชื้อไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ใจความผ่านเฟซบุ๊ก Anan Jongkaewwattana พร้อมภาพ บอกว่า
ภาพนี้งามและก็ชี้แจงได้แจ่มกระจ่างนะครับ มาจากบทความในนิตยสาร Nature reviews microbiology ฉบับปัจจุบัน จากภาพจะมีความเห็นว่าแบบอย่างที่เก็บมาการ swab จมูก คอ หรือ จากน้ำลาย จะมีเชื้อไวรัสที่ยังมีคุณลักษณะบริบูรณ์พร้อมติดโรคต่อ หรือ จะเป็นเชื้อไวรัสที่อนุภาคแตกเสียหายไปต่อไม่ติด พร้อมเศษโปรตีนที่หลุดออกมาจากอนุภาคดังกล่าวข้างต้น หรือ จะเป็นเศษสารพัดธุบาป RNA ที่ติดมากับแบบอย่าง การตรวจสารพัดธุบาปด้วยแนวทาง qRT-PCR หรือ RT-PCRหมายถึงแนวทางการทำเชื้อไวรัสมาทำให้แตกออกเพื่อปล่อยสารพัดธุบาปเพื่อออกมาวัด ซึ่งได้แก่การใช้สัญญาณการตรวจเจอเป็นผู้แทนของเชื้อไวรัสที่อยู่ในแบบอย่างส่งไปตรวจ

แต่ว่าเพราะแบบอย่างที่เก็บมามีเศษ RNA ผสมมาด้วยตั้งแต่ต้น เพราะฉะนั้นการตรวจ RT-PCR สามารถตรวจ RNA ของเชื้อไวรัสที่แยกออกมาจากเชื้อไวรัสจริงๆหรือ จาก RNA ที่คละเคล้ามาตั้งแต่ต้นที่มิได้ออกมาจากอนุภาคเชื้อไวรัสโดยตรง ซึ่งก็ตรงกับที่คนไม่ใช่น้อยเรียกว่า “ซากเชื้อ” นั่นเอง

ในกรณีของการตรวจด้วย ATK ซึ่งเป็นการตรวจค้นโปรตีนนิวคลีโอแคปสิดของเชื้อไวรัสซึ่งจะมาจาก 2 แหล่งร่วมกันเป็นอนุภาคเชื้อไวรัสโดยตรง หรือ เศษโปรตีนที่ติดมาพร้อมๆกับอนุภาคที่แตกเสียหายไปแล้ว แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าโปรตีนไม่สามารถที่จะเพิ่มปริมาณได้เสมือนการเพิ่มจำนวน RNA ด้วย RT-PCR การวัดก็เลยจะมีความไวที่น้อยกว่า สัญญาณ ATK ที่เป็นบวกชัดๆก็เลยจะต้องมีโปรตีนในจำนวนมากในระดับนึง ซึ่งลำพังโปรตีนจากเชื้อไวรัสที่เสียภาวะสิ่งเดียวอาจจะน้อยเกินไปที่จะส่งสัญญาณที่ชัดขนาดนั้น
ทำให้การตรวจ ATK ที่ได้ขีดที่แจ่มชัด จะคืออนุภาคเชื้อไวรัสที่บริบูรณ์ยังมีอยู่ในแบบอย่างอยู่ เอาง่ายๆเป็น ATK บวกชัดหมายถึงยังมีเชื้อที่แพร่ต่อได้อยู่….ในทางตรงกันข้าม ATK ที่เป็นขีดซีดๆข้างหลังเจ็บไข้มาครู่หนึ่งก็บางทีอาจจะคือเศษโปรตีนที่หลุดออกมาจากเชื้อไวรัสได้เช่นกัน
การตรวจค้นอนุภาคที่บริบูรณ์ที่ติดโรคได้ต่อ สามารถทำโดยการนำแบบอย่างมาบ่มกับเซลล์ในห้องทดลอง แล้ววัดความเคลื่อนไหวต่างๆในเซลล์พวกนั้น เป็นต้นว่า การแแสดงออกของโปรตีนของเชื้อไวรัส หรือ เซลล์ที่ตายลง หรือ จำนวนเชื้อไวรัสที่มากขึ้น เพื่อเป็นการรับรองว่าแบบอย่างมีเชื้อไวรัสที่ติดเชื้อโรคต่อได้จริงๆนักค้นคว้าสามารถเปรียบจำนวนเชื้อไวรัสในแบบอย่างดังที่กล่าวถึงมาแล้ว โดยการเจือจางแบบอย่างไปเรื่อยเพื่อหาจุดท้ายที่สุดที่เซลล์มีการเปลี่ยน ยกตัวอย่างเช่น หากเจือจางไป 1000 เท่า ยังสามารถเจอเซลล์ที่แสดงออกโปรตีนของเชื้อไวรัสได้ 5 จุด ก็บอกได้โดยประมาณว่า แบบอย่างนั้นมีอนุภาคเชื้อไวรัสที่บริบูรณ์ที่ติดเชื้อโรคต่อถึงที่กะไว้ 5000 อนุภาคต่อขนาดของแบบอย่างที่เอามาทดลอง
ปล: รูปที่แนบมาด้วยเป็นตัวอย่างเซลล์ที่ติดเชื้อโรคเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 แล้วย้อมด้วยแอนติบอดี 1 จุดเป็นกรุ๊ปเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสได้